6 ขั้นตอนวางแผนการเทรดบน TradingView พร้อมเทิร์นโปรได้ง่ายขึ้น

มาเริ่มต้นทำความรู้จักกับ TradingView แหล่งเครื่องมือวิเคราะห์กราฟราคาสินทรัพย์การเงินทั่วโลกและดัชนีต่าง ๆ ที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจลงทุนได้แม่นยำมากขึ้น เพราะมาพร้อมฟีเจอร์การใช้งานที่ครบครัน มีสินทรัพย์การเงินให้เลือกศึกษามากที่สุดและยังใช้วางแผนการซื้อขายได้ตั้งแต่เริ่มต้นจนเป็นมือโปรผ่าน 6 ขั้นตอนที่ทำตามได้ง่าย 

ขั้นตอนที่ 1 เชื่อมต่อบัญชี Bitazza Thailand เข้ากับ TradingView

ไปยังหน้าโปรไฟล์โบรกเกอร์บน TradingView เพื่อเชื่อมต่อ สามารถศึกษาวิธีตั้งค่าและเชื่อมต่อบัญชี Bitazza Thailand ของคุณได้ที่นี่

ขั้นตอนที่ 2 เลือกเหรียญที่ต้องการซื้อขาย

คุณสามารถเลือกคริปโทเคอร์เรนซีหรือโทเคนดิจิทัลที่ต้องการส่งคำสั่งซื้อขายผ่านเมนูที่อยู่ด้านซ้ายบนของหน้าจอ สามารถเลือกวิเคราะห์โทเคนดิจิทัลที่รองรับบนแพลตฟอร์มซื้อขายหรือโบรกเกอร์ชั้นนำ รวมถึงคู่การซื้อขายที่แตกต่างกัน เช่น คู่ซื้อขายกับสเตเบิลคอยน์ (Stablecoin) หรือคู่ซื้อขายกับ Bitcoin (BTC) 

นอกจากนี้ คุณยังเลือกได้ตั้งแต่เหรียญที่มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market Cap) จากมูลค่ามากไปจนถึงเหรียญที่มีมูลค่าน้อย และยังสามารถส่งคำสั่งซื้อขายเหรียญผ่าน TradingView ได้อีกด้วย

ขั้นตอนที่ 3 เลือกรูปแบบกราฟและไทม์เฟรมที่ต้องการซื้อขาย 

ก่อนที่จะเริ่มต้นส่งคำสั่งซื้อขาย คุณสามารถเลือกรูปแบบของกราฟที่จะแสดงผลราคาเสียก่อน รูปแบบกราฟที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ กราฟแท่งเทียน (Candlestick chart) ซึ่งแสดงการเคลื่อนไหวของราคาคริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลแต่ละเหรียญได้ชัดเจนที่สุด อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ที่มีความชำนาญในการใช้กราฟรูปแบบอื่นก็สามารถเลือกได้ตามความต้องการเช่นเดียวกัน

หลังเลือกรูปแบบกราฟเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนถัดมา คือ การเลือกไทม์เฟรมหรือช่วงเวลาที่จะแสดงผลกราฟ เริ่มต้นตั้งแต่ระดับรายนาทีไปจนถึงรายปี ถ้าเป็นไทม์เฟรมระยะสั้นอย่างรายนาทีหรือราย 30 นาที จะแสดงผลกราฟที่มีความถี่เหมาะสมกับการซื้อขายเพื่อเก็งกำไรในระยะสั้น แต่หากเป็นไทม์เฟรมที่กว้างขึ้นอย่างรายวันหรือรายสัปดาห์ จะเหมาะสมกับนักลงทุนระยะยาวมากกว่า คุณสามารถเลือกไทม์เฟรมที่ต้องการได้แล้วแต่สไตล์การซื้อขายและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของตัวเอง

ขั้นตอนที่ 4 เลือกอินดิเคเตอร์

อินดิเคเตอร์ (Indicator) เป็นเครื่องมือที่ใช้วิเคราะห์แนวโน้มของราคาโดยอาศัยข้อมูลราคาที่เกิดขึ้นในอดีตแล้วนำมาวิเคราะห์โดยใช้สูตรการคำนวนที่ต่างกันเพื่อนำไปใช้คาดการณ์ราคาในอนาคต ตัวอย่างของอินดิเคเตอร์ที่ได้รับความนิยม เช่น MACD (Moving Average Convergence/Divergence) และ RSI (Relative Strength Index) เป็นต้น อินดิเคเตอร์แต่ละชนิดมีจุดประสงค์ในการใช้งานแตกต่างกัน หลังจากคลิกเลือกอินดิเคเตอร์แล้วเครื่องมือดังกล่าวจะปรากฎบนหน้าจอการส่งคำสั่งซื้อขาย

ผู้ใช้งาน TradingView สามารถเลือกอินดิเคเตอร์ที่ต้องการกว่า 100 ประเภทได้ผ่านเมนูทางด้านบนของหน้าจอ นอกจากนี้ คุณยังสามารถเลือกใช้อินดิเคเตอร์แบบพิเศษที่ผู้ใช้งานคนอื่นสร้างขึ้น รวมทั้งนักลงทุนที่สร้างอินดิเคเตอร์ขึ้นเองก็สามารถใช้งานอินดิเคเตอร์ที่ตัวเองสร้างได้อีกด้วย

ขั้นตอนที่ 5 เลือกใช้เครื่องมือวาดแพตเทิร์น

สำหรับนักลงทุนที่เน้นดูรูปแบบราคา (Price Plattern) เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มราคาก็สามารถใช้เครื่องมือได้ผ่านเมนูทางด้านซ้ายของหน้าจอ โดยสามารถเลือกได้ว่าจะใช้เส้นแนวตั้ง แนวนอน หรือแนวเฉียงเพื่อวาดเส้นเทรนด์ (Trend line) ขึ้นมาใช้วิเคราะห์ราคา รวมถึงเครื่องมือที่จะช่วยวาดกรอบของราคาแบบต่าง ๆ ก็มีให้ใช้งานอย่างครบครัน ทั้งนี้ การใช้แพตเทิร์นราคาต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์ในการใช้งานด้วยตัวเอง

ขั้นตอนที่ 6 ส่งคำสั่งซื้อขายบน TradingView

ถึงขั้นตอนนี้ คุณสามารถเริ่มต้นส่งคำสั่งซื้อขายบน TradingView ได้แล้ว ด้วยฟีเจอร์ทั้งหมดที่มีบน TradingView ทำให้นักลงทุนตั้งแต่มือใหม่จนถึงมือโปรสามารถวิเคราะห์กราฟการซื้อขายได้ตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้ายอย่างไร้รอยต่อ พร้อมกับใช้เครื่องมือหลากหลายที่ปรับแต่งเองได้ผ่านแพลตฟอร์มเดียว

เชื่อมต่อบัญชี Bitazza Thailand กับ TradingView ได้เลย! คลิก ที่นี่ 

*คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนอาจจะสูญเสียเงินทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

**เนื้อหานี้จัดทำโดยบริษัท บิทาซซ่า จำกัด ภายใต้ความร่วมมือกับ TradingView